“เขาทราย” ผู้ชายที่หลงใหลในความเหนื่อย
เข้ามาเริ่มอยู่ในวงการวิ่งได้ยังไง?
ตั้งแต่เด็กอยู่ในวงการกีฬามาโดยตลอด โดยเฉพาะการเล่นรักบี้ที่หลงรักมาตั้งแต่มัธยม และได้เริ่มเข้าสู่วงการวิ่งเมื่อ 12 ปีที่แล้ว จากการที่บริษัทเปิดให้พนักงานมีส่วนร่วมในการซ้อมเพื่อไปลงกิจกรรมวิ่ง นี่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ผลักดันให้เข้ามาในวงการวิ่ง และเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้น้ำหนักตัวลดลงมา เป็น 10 กิโลกรัม
จากวันนั้น อะไรเป็นแรงจูงใจให้พี่เขาทรายยังคงวิ่งอยู่เสมอ
น่าจะเป็นความสนุก และแรงจูงใจจากเพื่อนที่วิ่งด้วยกัน รวมทั้งยังได้เจอกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ เช่น ตอนนั้นมีเพื่อนที่รู้จักในวงการไตรกีฬา เขาก็ชวนไปว่ายน้ำ ปั่นจักรยานบ้าง การเล่นกีฬามันเลยไม่น่าเบื่อ
สู่ครั้งแรกของงาน World Major ที่โตเกียวมาราธอน
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว การวิ่งยังไม่ได้บูมขนาดนี้ ตอนนั้นการวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศเริ่มเป็นกระแสมาบ้าง และที่คนไทยอยากไปคือ “โตเกียวมาราธอน” ถือเป็นงานวิ่งต่างประเทศครั้งแรกแรกในชีวิต ซึ่งตอนนั้นที่ไปวิ่งยังไม่ได้รู้เรื่องการวิ่งเกี่ยวกับ World Major อะไรเลย
“จริงๆในชีวิตพี่ มีเล่นกีฬาหลายประเภทมาก แต่สุดท้ายมาตกหลุมรักการวิ่งถนน และอยากทำให้ดีที่สุด”
พี่เขาทรายออกแบบตารางซ้อมตัวเองยังไง?
จะมีวันเวทคือวันจันทร์และวันพุธ วันที่เหลือเป็นวิ่งเบาๆ และ Recovery ในส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะเป็นวันวิ่งยาว สิ่งสำคัญคือร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้เราวิ่งได้ดี
ในชีวิตของการวิ่ง คือชีวิตของนักสู้ ดังนั้นเราต้องทำได้เต็มที่กับทุกการแข่งขันที่เกิดขึ้น ตราบใดที่เรามีสนามที่ต้องลง เราต้องพร้อม ถ้าไม่พร้อมพี่ก็จะเลือกที่จะไม่ลง แต่ถ้าพูดในแง่ของความโหยหาลำดับหรือ ทำ PB จริงๆ พี่ไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้น พี่อยากจะ Enjoy กับ Moment ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศสนามตามทาง และเพื่อนๆที่เจอมากกว่า
“บางครั้งเป้าหมายของความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ปลายทางเสมอไป แต่คือระหว่างทางที่พบเจอ”
เราได้เรียนรู้อะไรจากการเล่นกีฬา ?
ทุกกีฬามีเป้าหมายและลู่ทางของแต่ละกีฬาแต่ละประเภท เราในฐานะนักกีฬาก็อยากจะไปให้ถึงจุดสูงสุดหรือใกล้เคียงกับจุดนั้นให้ได้มากที่สุด มันคือเสน่ห์ของการเล่นกีฬา
มากกว่าการเล่นกีฬา คือสังคม (Community)
สิ่งที่พี่ได้ ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แข็งแรง แต่คือสุขภาพจิตที่ดี เพราะได้เจอสังคมที่ดี
ย้อนไปเมื่อหลายปีที่ก่อน พี่ไปวิ่งที่สวนลุมและเห็นคนสูงอายุมานั่งจิบน้ำชากัน เราไม่เคยเข้าใจ เราไม่รู้ว่าเขามานั่งคุยอะไรกัน จนวันนึงเราค้นพบว่า มันไม่ใช่แค่เรื่องร่างกายที่แข็งแรง แต่คือเรื่องสุขภาพจิตที่แข็งแรงด้วย เราได้เจอคนใหม่ๆ ได้นั่งคุยเรื่องไร้สาระ ขำขันกันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เราแลกเปลี่ยนทั้งเรื่องวิ่ง เรื่องการเมือง เรื่องข่าวในสังคม แต่มันคือกำลังใจที่ส่งให้กันได้เสมอ จริงๆ สังคมนี้มันคือการส่งต่อแหล่งพลังงานชั้นดีให้แก่กันและกัน ไม่จำเป็นต้องคนที่วิ่งเก่งกว่าได้พูดคนเดียว แต่คนที่มีปัญหาและกำลังเครียด ก็ยังได้แชร์ออกมา และต่างคนต่างช่วยกันหาหนทางแก้ไข
“เมื่อเราชอบทำสิ่งไหน เราหลงไหล เราทำมัน และทำมันให้ได้ดี แต่อย่าลืมว่า เราต้องมีความสุขระหว่างที่เราทำ”
เขาทราย จิรวัฒน์ เรืองวงษ์
link ไป FB : https://www.facebook.com/kaosai.jirawat
Link ไปหน้า profile พี่เขาทรายใน athlete https://x-realsport.com/troop-x-real/kaosai-jirawat/