บำรุงตับ รักษาลำไส้ ดูแลสุขภาพได้ด้วยการออกกำลังกาย
เพราะการขับถ่ายของเสียสำคัญกว่าที่คิด! ชวนดูแลสุขภาพง่ายๆ แค่ออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อร่างกายที่สมดุลจนคุณสุขภาพดีจากภายใน
อยากสุขภาพดี ต้องเริ่มที่ตับและลำไส้!
ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีกับคำกล่าวที่ว่า “สุขภาพดีจากภายใน” แน่นอนว่า การที่เราจะมีสุขภาพแข็งแรงนั้น แค่ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องดูแลอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ “ตับ” และ “ลำไส้” ด้วย เพื่อการผลิตพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันและออกกำลังกาย สู่สุขภาพดีแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก
ตับและลำไส้ ทำงานอย่างไร
หลังจากที่เรารับประทานอาหาร ผ่านหลอดอาหาร และผ่านการย่อยที่กระเพาะอาหารไปแล้ว อวัยวะถัดไปที่กินพื้นที่ส่วนกลาง และเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในช่องท้องก็คือตับ ก่อนจะเป็นลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ที่มีความยาวหลายเมตร และขดไปมาในช่องท้องส่วนล่าง เพราะฉะนั้น การทำความเข้าใจหน้าที่ของอวัยวะเหล่านี้จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เรารู้ว่า จะดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและใส่ใจเรื่องอาหารไปเพื่ออะไร
การทำงานของตับ
- ผลิตน้ำดี: ตับมีหน้าที่ผลิตน้ำดี (Bile) ส่งไปยังลำไส้เล็กเพื่อใช้ย่อยสลายสารอาหารประเภทไขมัน
- สร้างอัลบูมิน: ตับมีหน้าที่สร้างอัลบูมิน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยในการขนส่งสารอาหารและแร่ธาตุไปทั่วร่างกาย
- เปลี่ยนโครงสร้างสารอาหารและสะสมพลังงาน: ตับมีหน้าที่เปลี่ยนสารอาหารที่ถูกย่อยมาแล้วจากอวัยวะอื่นให้เหมาะแก่การใช้งาน เช่น
- ร่างกายย่อยคาร์โบไฮเดรตให้อยู่ในรูปน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวอย่างกลูโคสแล้ว ตับจะรับหน้าที่เปลี่ยนกลูโคสนั้นให้อยู่ในรูปของ “ไกลโคเจน” เพื่อเก็บสะสมไว้เป็น “พลังงานสำรอง” ของร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายต้องการพลังงานจนระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ตับจะแปลงไกลโคเจนกลับสู่กลูโคสเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้งานได้
- นอกจากนี้ ตับยังทำหน้าที่กักเก็บและรักษาระดับวิตามินและแร่ธาตุเพื่อให้ร่างกายนำมาใช้ยามจำเป็น
กรองของเสียออกจากร่างกาย: ตับมีหน้าที่กรองของเสียและขจัดสารพิษออกจากเลือดที่ส่งมาจากกระเพาะอาหาร แล้วลำเลียงไปตามท่อน้ำดี ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการถัดไปในลำไส้เล็ก
การทำงานของลำไส้
- ย่อยอาหาร: ลำไส้เล็กทำหน้าที่ย่อยสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันในส่วนที่เหลือจากกระบวนการในกระเพาะอาหาร โดยมีทั้งการย่อยเชิงกล คือ การยืดหดตัวของลำไส้ ผสานกับการย่อยเชิงเคมี โดยใช้เอนไซม์ที่สร้างเองได้ในลำไส้เล็ก แบคทีเรียดีบางชนิด และได้น้ำย่อยจากตับอ่อนมาช่วยย่อยอาหาร
- ดูดซึมสารอาหาร: ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่มีหน้าที่ดูดซึมน้ำ แร่ธาตุ วิตามิน และกลูโคสที่ผ่านการย่อยแล้วกลับเข้าสู่กระแสเลือด
กำจัดของเสีย: กากอาหารที่ผ่านการดูดซึมกลายเป็นอุจจาระจะเคลื่อนที่จากลำไส้ใหญ่ไปสู่ไส้ตรงที่เชื่อมต่อกับทวารหนัก นอกจากนี้ ของเสียที่ผ่านการขับออกมาเป็นน้ำดีจะถูกส่งจากท่อน้ำดีมาสู่ลำไส้เล็กส่วนต้นเพื่อขับออกจากร่างกายต่อไป
ตับ ลำไส้ และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ตับและลำไส้เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของแต่ละคน หากตับดี ลำไส้ดี สุขภาพก็จะดีตามไปด้วย แต่หากสองอวัยวะนี้ทำงานไม่เต็มที่ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยแล้ว ยังทำให้เหนื่อยล้าง่ายเพราะขาดพลังงานอีกด้วย
- ตับช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย หากรับประทานอาหารที่ทำให้ตับทำงานหนักหรือทำงานผิดปกติ เช่น อาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่ อาจทำให้ตับทำงานได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อโรคและภาวะต่างๆ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ดีซ่าน รวมถึงอาการที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ รู้สึกไม่สบายตัว ท้องบวม ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีดกว่าปกติ จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน ใบหน้าหมองไม่สดใส
- คุณภาพการขับถ่ายสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต หากลำไส้อ่อนแอ ขับถ่ายไม่ดี อุจจาระมีรูปร่างและสีผิดปกติ ร่างกายจะเสียสมดุล ส่งผลให้เหนื่อยล้า รู้สึกไม่มีสมาธิ สุขภาพและระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง เนื่องจากมีของเสียตกค้างในร่างกายจนอาจทำให้เกิดภาวะเป็นพิษ (Autointoxication) นอกจากนี้ยังมีอาการภูมิแพ้ หอบหืด ผิวพรรณไม่ผ่องใส เป็นสิว มีกลิ่นปากและกลิ่นตัว
บำรุงตับและลำไส้ สร้างสุขภาพดีได้ด้วยการออกกำลังกาย
ตับและลำไส้กับการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องพึ่งพากันและกัน กล่าวคือ เราควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อบำรุงตับและลำไส้ให้ทำงานเป็นปกติ เพื่อที่ว่า กระบวนการผลิตและสะสมพลังงาน ตลอดจนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และพร้อมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและความสนุกสนานในชีวิตต่อไป
การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อตับและลำไส้ ดังนี้
- ช่วยลดความเสี่ยงภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้และมะเร็งทวารหนัก
- ลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) ในเลือด ดีต่อการทำงานของตับ
- ลดความเสี่ยงเป็นติ่งเนื้องอกในลำไส้ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็ง
- ลดความเสี่ยงโรคไขมันพอกตับและลำไส้อักเสบ
- การออกกำลังกายช่วยให้ลำไส้เคลื่อนตัว คนออกกำลังกายจึงขับถ่ายได้ดีกว่าคนที่มีไลฟ์สไตล์นั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งวัน
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30-40 นาที 4-5 วันต่อสัปดาห์ โดยออกกำลังกายในท่าที่มีการบิดหรือพับของช่วงเอว เช่น วิ่งเหยาะๆ เต้นแอโรบิค โยคะ ซิทอัพ จะช่วยให้ลำไส้ได้เคลื่อนตัวและขับถ่ายได้ดีขึ้น
นอกจากนี้แล้ว อย่าลืมมองหาตัวช่วยเติมเต็มสารอาหารเพื่อบำรุงตับ ลำไส้ และสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วย อย่าง X-REAL สูตร B-YOND โปรตีนพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลอดเลือด ตับ และลำไส้ พร้อมด้วยสารสกัดต่างๆ อย่างตรีผลา เมล็ดแฟลกซ์ ผงอะโวคาโด โคเอนไซม์คิวเท็น ไปจนถึงพรีไบโอติกส์ ช่วยดูแลสุขภาพ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดอาการอ่อนล้าจากการออกกำลังกาย ไปจนถึงการช่วยปรับสมดุลระบบภายใน ให้ตับและลำไส้ทำงานเป็นปกติด้วย